6.29.2551

ขอ









ถ้าฉันสามารถขอให้อะไรในโลกนี้เหมือนเดิมได้
คงมีคำขอหนึ่งคำในหลายสิ่งที่ฉันจะขอ

ฉันคงขอให้มิตรภาพของเรายังเหมือนเดิม
ไม่ว่าเราจะทะเลาะหรือเถียงกันมากเท่าใด
ไม่ว่าเราจะหัวเราะให้กันและกันมากอีกกี่ร้อยครั้ง

ฉันยังคงขอให้มันคงอยู่อย่างนั้น
ฉันคงไม่อาจหาญจะขอย้อนกลับไปในอดีต

การเจอกันครั้งนี้ ฉันคงหวังได้แค่ทุกคนจะมีความสุขเหมือนเคย
ถึงแม้ว่าเราจะต้องทุกข์จากชีวิตบ้าง

แต่ฉันเชื่อเสมอ ไม่ว่าเมื่อใดที่เรากลับมาเจอกันอีกครั้ง
ขอแค่เราสามารถแบ่งปันความทุกข์และความสุขได้

เท่านั้นแหละ ที่ฉันจะสามารถทำให้เพื่อนได้

แค่นั้นก็พอ...

6.25.2551

อย่าถาม...ความรู้สึก...




"อย่าถาม" ETC.
ไม่ได้รู้สึกว่า MV เพลงไหนตั้งใจทำและสวยแบบนี้มานานแล้วแฮะ...
มีรายละเอียดอยู่เยอะมากที่แสดงว่าเค้าใส่ใจกับเพลงและความรู้สึกในขณะนั้นจริงๆ
^__^
"ชอบ..."

6.24.2551

เงียบ...



วันนี้สังเกตตัวเอง...
ถึงแม้ฉันจะชอบออกไปข้างนอก
ฉันชอบพบปะผู้คนที่ฉันไม่เคยรู้จักมาก่อน
ฉันชอบออกไปสังสรรค์กับคนคุ้นเคย

แต่สุดท้าย...
เมื่อฉันกลับมาที่ห้อง
ณ พื้นที่ส่วนตัวของฉัน
ฉันชอบอยู่เงียบๆ หลังจากเหนื่อยล้ากับสิ่งแวดล้อมทางลบที่เราต้องรบมาตลอดวัน
(ไม่ใช่ว่าฉันอยู่แต่บรรยากาศแย่ๆหรอกนะ...แค่มันเหนื่อยเท่านั้นเอง)

พ่อเคยบอก ให้น้องสาวมาอยู่ด้วย จะได้ไม่เหงา
ได้แต่ตอบกลับไปว่าชอบอยู่คนเดียวมากกว่า

ตราบใดที่เราไม่รู้สึกเหงาหรือรู้สึกแย่
ฉันก็ยังคงชอบอยู่เงียบๆ ในพื้นที่ของตัวเองมากกว่าอยู่ในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย

ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงไม่ชอบไปนอนห้องเพื่อนๆ หรือบ้านใครที่ฉันไม่คุ้น
(แต่การไปเที่ยวเป็นข้อยกเว้น เพราะฉันเต็มใจหาความสุขจากความไม่สงบเหล่านั้น)

เพราะเหตุนี้รึเปล่า...ใครๆถึงว่าฉันมีโลกส่วนตัวสูง
และฉันถึงได้แทนตัวว่าเป็น "Listener"

photo ref.: http://listen.nycagainstrape.org/

6.23.2551

ด้วยความอาลัย...

วันที่ 20 มิถุนายน 2551
เป็นอีกหนึ่งวันที่ฉันน้ำตาไหลให้กับคนที่ฉันไม่เคยรู้จัก...อย่างที่ฉันเคยเล่าให้ฟัง

วันนี้ฉันเอะใจ
ว่าคนที่ฉันคิดว่าฉันไม่รู้จักคนนั้น มีชื่อและนามสกุลที่ฉันคุ้นเคยเหลือเกิน
...
ความทรงจำในอดีตของฉันกลับคืนมา

"กิตติกุล บุญลือ"

เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ เพื่อนร่วมชั้นของฉันตอน ม.1
เด็กผู้ชายที่ฉันนึกออกแต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มอยู่เสมอ
เด็กผู้ชายที่ชอบเฮฮาอยู่หลังห้อง ริมประตูตรงนั้น
เด็กผู้ชายที่เป็นรหัสแรกของสายชั้น รหัสอยู่หน้ารหัสชั้น 2 คน

เด็กผู้ชายในความทรงจำนั้น...
เลือนรางในความทรงจำของฉันมานาน

จนวันที่ 20 มิถุนายน 2551
ฉันได้เจอเค้าอีกครั้ง ในไดอารี่หน้านั้น
แต่ฉันไม่มีโอกาสได้ทักทายเค้าอีกแล้ว


ฉันไม่ได้ร้องไห้ให้กับคนที่ฉันไม่รู้จัก
แต่ฉันร้องไห้ให้กับ "เพื่อน" ในอดีตของฉัน

"กิตติกุล บุญลือ"

6.20.2551

วันนี้เป็นวันที่ฉันน้ำตาไหลให้กับคนที่ฉันไม่เคยรู้จัก

วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ฉันน้ำตาไหลให้กับคนที่ฉันไม่เคยรู้จัก

ใครคนนึง ให้ฉันอ่านหน้าไดอารี่หน้าหนึ่งใน diaryis

http://polize.diaryis.com/











เนื้อความข้างในนั้น จับใจความได้ว่า
ผู้ชายคนนี้เป็นตำรวจ วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบ 24 ปีของเค้า และเค้าเกิดวันเดียวกับแม่ของเค้า

(ขอยกข้อความบางส่วนจากหน้าไดอารี่นั้นมานะคะ...)

ตื่นเต้นจัง
....
....
....
ไม่เคยอายุ 24 มาก่อน
ครั้งแรกในชีวิตนะเนี่ยะ ที่อายุ 24

เขิลว่ะ 55+

สั้น ๆ ละกันครับ
วันนี้ 20 มิถุนายน 2551
เป็นวันเกิดหมวดตี้
และ เป็นวันเกิดเด็จแม่หมวดตี้ด้วย โหะ ๆ

เป็นตำนานเล่าขานที่ว่าเกิดวันเดียวกับแม่
เพราะว่า.. พ่อเป็นครูคณิตศาสตร์
พ่อเลยคำนวนแม่น 555+

ขอบคุณเด็จแม่คร้าบบบ
ที่ทำให้ผมมีวันนี้
ขอบคุณเด็จพ่อด้วยคร้าบ
เด็จพ่อและเด็จแม่คงภูมิใจ
ว่าไอ้ตัวที่แข็งแรงที่สุดเมื่อ 24 ปีที่แล้ว
ปัจจุบันมันโตมาได้ขนาดนี้ โหะ ๆ
(ยกเว้นสมอง ที่มันไม่ยอมโต เงอะ...)

แม่จ๋า... วันเกิดลุกไม่ได้ไปฉลองที่ไหนจริง ๆ นะแม่
แถวนี้ไม่มีที่ให้ฉลองอะ แค่ลูกรอดกลับมาได้ก็พอใจแระ
เดี๋ยวรอกลับไปฉลองกับเด็จแม่ที่บ้านเรา เนอะ ๆ
ไม่ได้กลับไปหาเด็จแม่นานแล้วด้วย คิดถึ้งงง คิดถึง
ว่าจะไปหาเด็จแม่.... ไปขอตังค์ 55+



วันเกิดเด็จแม่ เด็จลูกก็ขอให้เด็จแม่แข็งแรงเน้อ
อยูกะลูกไปนาน ๆ ให้ถึงวันลูกติดนายพลเลยนะแม่นะ
และก็..
...
...
...
...
...
ขอให้เด็จแม่มีลูกสะใภ้คนโตสวย ๆน่ารัก ๆ นิสัยดี ๆ
(อันนี้ออกแนวหวังผลกะตัวเอง 55+)



เมื่อฉันอ่านจบ ใครคนนั้นบอกฉันว่า เค้าเสียชีวิตเมื่อเช้านี้














"วันนี้อยู่ดูโลกให้โสภิณ พรุ่งนี้ชีวินสิ้น ไม่รู้...วันตาย"

วันนี้เป็นวันที่ฉันน้ำตาไหลให้กับคนที่ฉันไม่เคยรู้จัก

เป็นไข้...

เวลาที่เราป่วย อาการฟุ้งซ่านและคิดมากมักถามหา
อาการเหงา ความน้อยใจมักวิ่งตามมา
เมื่อเราป่วย เราจึงอยากกลับบ้าน ไปอยู่กับครอบครัวมากกว่าปกติ เพื่อจะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียว
ซึ่งถ้าดูกันจริงๆแล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีเหตุผลตามมาด้วยสักนิด
แต่มันมักเกิดขึ้นโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้
ไม่ชอบตัวเองเวลานี้เลย...
ไข้ขึ้น

ทำไมชีวิตของพวกเราจึงต้องมีความรักนะ?
เพราะความรักมันยั่วยวนยามมีความสุข แต่ปางตายยามเกิดทุกข์งั้นเหรอ?

ถ้าเลือกได้ ทุกคนคงไม่อยากทุกข์เพราะรัก
อยากใช้ชีวิตอย่างมีความสุขโดยไม่มีอะไรให้คิดกับเพื่อนฝูง

แต่ตอนนี้ ชั้นมีความสุขไปแล้ว
อย่าให้ความทุกข์จากความรักมันเกิดขึ้นอีกครั้งเลยนะ

ขอร้อง...

6.15.2551

อิจฉา...


14 มิถุนายน...
มี concert ที่อยากดูมานาน เล่นวันนี้
"No More Belts' Happening Concert"
เอาล่ะ...
เราจะขอ update ด้วยรูปภาพ ให้ใครบางอิจฉาเล่นๆนะ...
^^


เดินจากจตุจักรไปอย่างเร่งรีบกับจุ๊บแจง
ไม่้ใช่ว่ารีบไปดูหรอกน่า ปวดฉี่ - -"



รีบยังไงก้อยังถ่ายรูปไปได้



บรรยากาศหน้างาน...



รู้สึกตัวเองหน้าบวมอย่างแรง...- -"


ตารางการแสดงทั้งหมดหน้างาน (กรุณาอย่าดูเวลาเพราะมัน late เป็นชั่วโมง)




ส่วนนิทรรศการ



บริเวณแยกพื้นที่นิทรรศการ-ขายของ ออกจากบริเวณแสดงดนตรี



กูรีบมาทำไม ทั้งๆที่ก็น่าจะรู้ว่าต้องมานั่งรอ...ถ่ายรูปเล่นไปล่ะกัน)



ถ่ายรูปมาเยอะก็เสียเยอะ...บางรูปก็ดูไม่ออกว่าใครเป็นใคร แต่อันนี้คงจะดูออกว่าคือเจ๊ปอย portrait





กดไปเรื่อย ไฟสวยดี...ถึงกล้องจะไม่อำนวยเท่าไหร่ก็ตาม

ช่วงเวลา 4 โมงเย็นถึงเที่ยงคืนที่เต็มไปด้วยความสุข...
รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เสพความสุขตามความต้องการส่วนตัวมานานยังไงไม่รู้สิ
รู้สึกว่าตัวเองแก่ขึ้นด้วยแฮะ

ขอบคุณนะคะ...
^^
ป.ล. รูปอาจเรียบเรียงไม่สวยงาม ขออภัย...

6.14.2551

วันที่ฉันป่วย...

ไม่ได้ป่วยเพราะหวัดมานานล่ะ

ส่วนใหญ่โรคประจำตัวที่เป็นอยู่เป็นประจำคือ โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร การกินและการขับถ่าย

เจ็บคอ...
มึนหัว...

ทั้งๆที่เมื่อวานได้ทานอะไรร้อนๆ +กินยากันเอาไว้แล้ว
แต่วันนี้ตื่นมาก็รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่

แต่ก็คิดว่า ถ้านอนซมอยู่ต่อไป ไข้จะต้องขึ้นแน่ๆ

ดังนั้น จึงตื่นมาอาบน้ำแต่ปฏิบัติชีวิตประจำวันอย่างปกติดีกว่า...

วันที่ฉันป่วย...
^^

(แต่ตอนเย็นขอไปดู concert นะ..ๆๆ)

6.12.2551

เพราะฝนตก

เพราะฝนตก
...แดดไม่ออก

เพราะฝนตก
...ซักผ้าไม่ได้

เพราะฝนตก
...หม่นหมอง

เพราะฝนตก
...เลยขี้เกียจ

เพราะฝนตก
...ห้องเลยสกปรก

เพราะฝนตก
...งานไม่เดิน

เพราะฝนตก
...เป้าหมายถูกผ่อนผัน

เพราะฝนตก
...ไม่ไปจ่ายค่าโทรศัพท์

เพราะฝนตก
...จึงเหงา

เพราะฝนตก
...ไม่ได้กินข้าว

เพราะฝนตก
...วันนี้ไม่มีใครโทรมา

เพราะฝนตก
...ยังไม่ได้เอ่ยปากสักคำ

เพราะฝนตก
...ได้แต่คิด แต่ไม่ทำ

เพราะฝนตก
...อยากฟังเพลง


แต่เพราะฝนตก
...นั่งอยู่อย่างนี้เรื่อยไป

รอให้ฝนหยุดตก...
อากาศสดใส...

จิตใจกระตือรือร้น

และทุกสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในวันฝนตก
จะหายไป...

แต่มันไม่ใช่เพราะฝนตกหรอก...
มันเพราะฉันเอง

รักแรก...

น้ำตาที่ไหลออกมา บางครั้งมันอาจไม่ได้เกิดจากความเสียใจ แต่มันอาจเป็นน้ำตาแห่งความรู้สึกที่เปี่ยมล้น จนฉันไม่อาจอธิบายได้

พฤษภาคม 2542

ชีวิตมัธยมปลายของฉันได้เริ่มต้นขึ้น พร้อมกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนหน้าใหม่เพียงคนเดียวจากทั้งสายชั้น
เพราะโรงเรียนของฉันใช้วิธีการสอบเข้า
จึงไม่มีใครที่แปลกหน้าจากตอนมัธยมต้นที่สามารถเข้ามาเรียนร่วมชั้นกันได้ง่ายนัก
เธอจึงเป็นจุดสนใจ

โดยที่ฉันไม่เคยรู้เลย ว่าชายหน้าใหม่คนนี้จะกลายเป็นรักแรกของฉันในอนาคต

ฉันจำไม่ค่อยได้แล้วว่าเมื่อไหร่กันที่ฉันและเธอมาสนิทกันได้
ฉันรู้แค่ว่าในช่วงแรก ฉันและเธอให้คำปรึกษากันและกันหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องชีวิตรักของเธอ
จนฉัน ตกหลุมรักเธอ โดยที่ฉันรู้สึกแต่แรกว่ามันไม่มีทางเกิดขึ้นจริง

แต่เมื่อวันนึง ฉันและเธอได้รักกัน

ทั้งเหตุการณ์ และคำพูดที่เธอพูดกับฉันในตอนนั้น เป็นเหตุการณ์และความรู้สึกที่ฉันไม่เคยลืม


แต่ ณ วันนั้น
อาจเพราะฉัน ยังเด็กเกินไป
ฉันจึงไม่สามารถรักษารักแรกที่ฉันเชื่อมั่นเอาไว้ได้นาน
ฉันไม่สามารถดูแลความรักของฉันได้อย่างที่เธอหวัง

1 ปี 8 เดือนในความเป็นจริง แต่เป็นแค่ 3 เดือนในความรู้สึกของเธอที่ความรักของฉันคงอยู่

แต่เธอคงไม่เคยรู้เลยว่า หลังจากนั้น 4 ปี ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับฉัน มีเธอซ้อนทับอยู่ในทุกความทรงจำ
ไม่เว้นแม้กระทั่ง ใครบางคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตฉัน


พฤศจิกายน 2549

วันนึง ฉันตัดสินใจว่าฉันต้องจบความรู้สึกฝังใจกับความรักครั้งแรกเสียที
ฉันจำเป็นต้องเริ่มต้นใหม่กับใครสักคนโดยที่ฉันจะไม่เอาอดีตมาซ้อนทับอีก
ฉันตัดสินใจจะเปิดความรู้สึกของตัวเองให้กับใครบางคนที่คิดว่าเขาเป็นคนดีสำหรับฉันได้

แต่มันผิดคาด...

เราต่างกลับมาสนิทกันโดยไม่มีเหตุผล
มันอาจไม่ใช่การกลับมาโดยสมบูรณ์ เพราะเราไม่มีอะไรผูกมัดกัน
แต่การกลับมาในครั้งนี้ มันสมบูรณ์ในความรู้สึกของฉัน

เพราะฉันคิดว่าฉันจะชดเชยการปล่อยปละละเลยความรู้สึกของเธอในอดีต และฉันจะต้องให้เวลาและความรู้สึกแก่เธอให้มากขึ้นกว่าที่เคยเป็น

ฉันทุ่มเทให้กับเธอเต็มที่
ทุ่มเทให้กับรักแรกของฉัน และจะต้องทำให้มันมีความสุขที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้


แต่สิ่งที่ฉันคิด มันผิดมาตลอด...


16 กุมภาพันธ์ 2551

วันที่ฉันได้รู้... ว่าเธอไม่ได้เลือกฉัน
มันคงเป็นวันที่ฉันเสียศูนย์มากที่สุดในชีวิต
และคงเป็นช่วงเวลาที่ฉันทำตามอารมณ์ตัวเอง โดยที่ไม่มีเหตุผลเข้ามาเกี่ยวข้องได้มากที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา

และฉันคงไม่มีทางที่จะยื้อมันไว้ได้นาน
เพราะฉันเลือกที่จะจบความคลุมเครือในตอนนั้นเสียเอง
ฉันเลือกที่จะใช้วิธีของฉัน

ถึงแม้ฉันจะลังเลและเลือกที่จะกลับไปหาเธออีกครั้ง
เธอก็ยังคงยืนยันที่จะเลือกคนอื่นที่ไม่ใช่ฉัน

เช่นเดิมเหมือนที่เธอเคยตัดสินใจ



ฉันจำใจต้องออกมาให้ไกลจากชีวิตเธอ เพราะเธอเลือกเช่นนั้น




9 มิถุนายน 2551

ฉันนั่งทำงานอยู่ในห้องตามปกติ กำลังง่วนอยู่กับการส่ง e-mail ไปหาคนๆนึงที่อาจารย์ได้มอบหมายมาว่ามีความสำคัญมาก

เสียง msn ดังขึ้น ในขณะที่ฉันไม่ได้ใส่ใจ

รักแรกของฉัน
เธอเข้ามาบ่นฉันเรื่องการใช้ tense อย่างมั่วซั่วตามอารมณ์โดยไม่มีหลักการ


“สบายดีไหม?” คำถามที่ฉันอยากรู้มาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เป็นสิ่งแรกที่ฉันถามเธอ

ฉันไม่รู้ว่าฉันเดาถูกไหม... แต่เธอหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามฉันอย่างตรงไปตรงมา เหมือนที่เธอเคยทำยามที่เธอไม่ต้องการพูดในสิ่งที่เธอเป็นอยู่

ในวันนั้น เธอไม่ได้บอกฉันว่าเธอสบายดีและมีความสุข

ฉันยังคงเป็นคนเดิม ที่ฉันไม่เคยโกรธเธอได้เลย ยิ่งฉันรู้ว่าเธอยังคงรู้สึกผิดเสมอมา ฉันก็ไม่มีวันที่จะโกรธเธอได้

ฉันยังคงได้แต่หวังเช่นเดิม ว่าเธอคงมีความสุขดีกับความรักของเธอ
เธอคงมีความสุขดีกับสิ่งที่เธอเลือกและฉันก็เชื่อว่าเธอได้เลือกเส้นทางที่ดีที่สุดแล้ว

ถ้าฉันพูดตอนนี้ คงไม่มีใครเชื่อฉัน...
ว่าฉันคิดถึงเธอเพราะแค่อยากรู้ว่าเธอสบายดีไหมและฉันไม่ต้องการทำให้ความสัมพันธ์ของใครต้องรวนเรอีกแล้ว

ฉันทำได้แค่ คิดถึงเธออยู่เสมอ
และมีความสุขอย่างที่เธออยากให้ฉันเป็น

หวังว่าป๊า แม่ และพี่สาวเธอจะสบายดี ท่านยังคงจำแนนคนนี้ได้
คงจะมีสักวันที่ฉันยังสามารถซื้อขนมฝากไปให้ท่านได้เหมือนเมื่อก่อน

Miss u,always…
Nann

6.08.2551

แรงบันดาลใจ

วันนี้วันอาทิตย์
อาจารย์ที่ปรึกษาเรียกนิสิตที่อาจารย์ดูแลแก้ไขงานวิจัยทั้งหมดมาพบหน้ากัน...(ประมาณ 10 กว่าคน)
พูดคุยถึงรุ่นพี่ที่สามารถเรียนและทำ thesis จบภายใน 2 ปี+summer

สุดท้าย การสามารถทำ thesis ได้มีคุณภาพและรวดเร็ว
มีเหตุผลแค่ประการเดียว...

"แรงบันดาลใจ"

และปัญหาของการเรียนไม่จบภายใน 2 ปี+summer
มีเหตุผลประการเดียวเช่นกัน...

"ขาดแรงบันดาลใจ"

(กุลนันท์เป็นอย่างหลัง - -")

เฮ้อ.............................................
หาแรงบันดาลใจซะ กุลนันท์

6.02.2551

คำสัญญา



เมื่อหลายวันมานี้ ฉันได้ฟังเพลงๆนี้อีกครั้ง
ฟังจนทำให้ฉันฝัน ว่าฉันได้เจอเธอ...
ในฝันฉันโกรธ โกรธที่เธอไม่ยอมคุยกับฉัน
โกรธที่เธอไม่เคยเห็นถึงความเป็นเพื่อนของเราอีกแล้ว

เมื่อฉันตื่นขึ้น ฉันเล่าให้คนใกล้ตัวฟัง...ว่าฉันฝันถึงเธอ
ฉันจำไม่ได้ว่าเขาถามฉันว่าอะไร แต่ฉันจำคำตอบของฉันได้
"ฉันไม่ได้อยากเจอเธอ หรือไม่ได้ไม่อยากเจอเธอ..."
แต่ฉันฝันถึงเธอ...

ตอนนี้ ฉันยังคงได้แค่หวังว่าเธอจะมีความสุขดี เช่นเดียวกับที่ฉันมี
หวังว่า เธอคงยังไม่ลืมคำสัญญาที่เธอและฉันต่างให้กันไว้

"ฉันไม่ลืมงานบวชเธอแน่นอน แต่ก็อย่าลืมงานรับปริญญาฉันด้วยนะ..."