
ซื้อของอะไรไม่ได้ เดินดูได้อย่างเดียว...
เข้าวัดก็ไม่ได้เพราะเป็นช่วงเวลาเค้าปิดให้คนเข้าไหว้พอดี
เลยเดินทนดมกลิ่นแขกไปเรื่อยๆ

แต่มีอีกที่ที่ไม่ต้องทนกลิ่น คือ china town

ของที่ขายก็เหมือนเยาวราชบ้านเรา

ไปเดินเอาบรรยากาศดีที่สุด

แหล่งช็อปที่ดีที่สุด คือ mustafa
(ดูจากจำนวนถุงที่ซื้อ - -" เป็นของกินซะเกินครึ่ง)

เดินซุปเปอร์ตามห้างก็ดีนะ เพราะได้เห็นของแปลกๆ เยอะดี

สิ่งที่ห้ามลืมซื้อถ้าเป็น shopper ตัวจริง คือ กระเป๋า charles & keith

อาหารที่แนะนำและควรกิน คือ ร้านหยำฉา ที่ chinatown
กรุณาหาทางขึ้นให้เจอ มันจะแอบอยู่ตามซอกๆ และขึ้นได้หลายทาง

เมนูที่นี่อ่านง่าย มีภาษาอังกฤษ และมีรูปประกอบ
(อย่าลืมบอกเค้าก่อนด้วยว่าไม่เข้าใจภาษาจีน - -")
ป.ล. ชาจีนที่นี่เกรดดีกว่าทุกร้านในเมืองไทยที่เคยกินมา (หมายถึงบริการเติมชาตามร้านนะ )
เวลาอยากได้อะไร ก็กดปุ่มเรียกเค้าตรงป้ายที่ตั้งอยู่บนโต๊ะนั่นแหละ ...ไม่ต้องตะโกนเรียกให้โล้งเล้งเหนื่อยใจ

ซอสที่นี่เป็นซอสพริกเปรี้ยว กินกับติมซำอร่อยนักแล...
ถั่วถ้วยเล็กๆนั่นคิดราคาไปแล้ว ถ้วยละ 2 เหรียญถ้าจำไม่ผิด - -" เพราะฉะนั้น กินซะ!!!

อาหารเบสิคอย่างซาลาเปาถั่วแดงก็อร่อย...เข้มข้นแต่ไม่หวานไป
ฮะเก๋ากุ้งควายโครตตตตต >__<

สรุป คือ ที่นี่อาหารจีนอร่อยทุกอย่าง
แม้กระทั่งปอเปี๊ยะกุ้งแสนธรรมดา

ข้าวผัด อาหารปราบเซียนของอาหารจีน เหมือนกินไส้บ๊ะจ่าง
ซุปอะไรสักอย่าง ก็เหมือนกินเศษหูฉลามอร่อยๆ

จานปิดท้าย คือ เป็ดปักกิ่ง จะมีบริกรมาหั่นให้ดูตรงหน้า
ดูหรูหราขึ้นมาทันที
(ตอนเค้าหั่นให้ แอบหั่นล่วงไปชิ้นนึง เราก็ทำเบลอเพื่อให้เค้าไม่รู้สึกผิดมาก ^^ )

เนื้อเป็ดก็เอาไปตุ๋นมาให้กิน
เป็นการปิดท้ายมื้ออาหารที่ดีทีเดียว...

ขากลับ ขึ้นรถไฟฟ้าเช่นเคย
แต่เงินในบัตรหมด เลยใช้บัตรธรรมดาแทน จะได้ไม่ต้องเติมเงินบัตรอีก 10 เหรียญแล้วไม่ได้ใช้

ขึ้นเครื่องกลับไทยโดยสวัสดิภาพ
ได้ตราประทับเพิ่มมาอีกประเทศ

สำหรับการเริ่มท่องเที่ยวด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก
ถือว่าประทับใจประเทศนี้มาก เพราะเดินทางสะดวก อาชญากรรมต่ำมาก และได้เรียนรู้อะไรเพิ่มอีกแยะ
หวังว่าจะมีโอกาสได้กลับไปที่นั่นอีกนะ ^^